🐹Overview .NET Core

หลายคนคงเคยเรียนภาษา .NET Programming ของทางฝั่ง Microsoft ในวิชาคอมพิวเตอร์กันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็น VB, C# ซึ่งจะยึดติดกับ Platform ของทางฝั่ง Microsoft เอง ต่อมาเมื่อเกิดภาษา Programming ที่เป็น Cross-Platform มากขึ้น Microsoft จึงต้องหันมาทำ .NET Core บ้าง

Overview

.NET Core เป็น Other Framework ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของปี 2019 บน Stack Overflow จากการที่มันเป็น Programming Language แบบ Cross-Platform นั่นเอง โดยจะใช้ Library แยกจาก .NET Framework แต่จะใช้ Compiler & Runtime Component ร่วมกัน

เมื่อพัฒนา .NET Core มาซะขนาดนี้ จะให้ใช้ Visual Studio บน Windows มันก็ดูจะเป็น Cross-Platform ที่ใช้ไม่ได้จริง ทาง Microsoft เลยทำ Visual Code ที่เป็น Code Editor แบบ Cross-Platform ขึ้นมารองรับนั่นเอง จะต่างกับ Visual Studio ที่เป็น IDE เพื่อมารองรับการเขียน .NET Core

.NET Core vs .NET Framework

.NET Core

เกิดจากการที่ Microsoft ประกาศ Open Source เทคโนโลยีของ .NET Framework ให้ .NET Foundation องค์กรกลางเป็นผู้ดูแล แล้วพัฒนาต่อมาเป็น .NET Core เพื่อให้สามารถทำงานแแบบ Cross-Platform ได้ โดยมี Feature แค่บางส่วนของ .NET Framwork ในเวอร์ชั่นแรก ซึ่งแนวทางพัฒนาจะไปทาง .NET Core มากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาจากการย้าย .NET Framework ไปรันบน .NET Core ทาง Microsoft จึงกำหนดมาตรฐานกลาง .NET Standard ขึ้นมา ซึ่งเป็นชุดของ API ที่ทั้ง .NET Core และ .NET Framework จะต้องเรียกใช้

.NET Framework

จะเหมาะกับงานด้าน Windows Application ที่ใช้ Windows Forms, WPF และ UWP ส่วน .NET Core จะเหมาะกับงานด้าน Web Application ที่ต้องการ High Performance & Scalable โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ Microservice ซึ่งจะสะดวกกว่า เร็วกว่า รองรับการทำงานแบบ Cross-Platform และ .NET CLI แต่แลกมาด้วย Learning Curve ที่สูงขึ้น แต่เชื่อเถอะว่าง่ายกว่าตอนเขียน Web Application ที่เขียนบน .NET Framework แบบเดิมเยอะ แต่โดยส่วนใหญ่จะใช้ .NET Core ทำเป็น Web API แต่ไม่ว่าจะเป็น .NET Core หรือ .NET Framework

อ่านเพิ่มเติม : https://bit.ly/2xSS0I8

.NET 5

หลังจากการเปิดตัว .NET Core 3.0 ทาง Microsoft ก็ประกาศการเปิดตัวครั้งต่อไปจะเป็น .NET 5 ในเดือนพฤศจิกายน 2020 ซึ่งเป็นการรวม .NET Core และ .NET Framework เข้าด้วยกัน โดยจะต้องทำการ Update Visual Studio และ Visual Code ให้รองรับในช่วงครึ่งแรกของปี

อ่านเพิ่มเติม : https://bit.ly/2EACeVZ