Scam Mail
Last updated
Was this helpful?
Last updated
Was this helpful?
จากอีเมลที่ได้รับ ผู้โจมตีบอกว่าได้โจมตีผ่าน Malware แล้วอ้างว่าสามารถเข้าถึงเครือข่ายและคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูล รวมถึงควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น กล้อง, ไมโครโฟน โดยข่มขู่เหยื่อให้จ่ายเงินเป็น Bitcoin ผ่านเลขบัญชี Wallet ที่แนบมา หากเหยื่อไม่มีความเข้าใจมากพอก็จะคิดว่าถูกแฮกจริง ๆ อาจจะทำให้สูญเงินได้
แบบแรก : อาศัยข้อมูล Sensitive Data ที่รั่วไหลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ อย่าง รหัสผ่าน, ภาพลับส่วนตัว มา Blackmail หรือข่มขู่ ว่าสามารถ Hack ข้อมูลของเหยื่อได้
แบบที่สอง : อาศัยการส่งอีเมลไปหาเหยื่อด้วยอีเมลของเหยื่อเอง มา Blackmail หรือข่มขู่ ว่าสามารถ Hack ข้อมูลของเหยื่อได้
แบบแรก : ไม่หลงเชื่อ และทำการเปลี่ยนรหัสผ่านบนบริการทั้งหมด ที่ใช้รหัสผ่านนั้น และทำการเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication ส่วนข้อมูล Sensitive Data ควรเปิดเผยข้อมูลเท่าที่จำเป็น และไม่ควรเปิดเป็น Public
แบบที่สอง : ไม่หลงเชื่อ และทำการแจ้งผู้ดูแลระบบ เพื่อกำหนดค่า Email Setting ให้มีความปลอดภัยตาม Policy ขององค์กร
การตรวจสอบ Email Header เพื่อใช้ในการหาเส้นทางการรับส่งของอีเมล ถ้าเป็น Microsoft Outlook ให้เข้าไปที่ Mail -> View -> View message detail ส่วน Google ให้เข้าไปที่ Mail -> Show original ซึ่ง Email Header ที่เห็นจะเป็น Text ยาว ๆ ทำให้อ่านลำบาก จะมีเครื่องมือที่ช่วยในการอ่าน Email Header ได้แก่
ผู้ดูแลระบบ สามารถตั้งค่าระบบเพื่อป้องกันการส่งอีเมลปลอม และป้องกันการรับอีเมลปลอม ดังนี้
กำหนด SPF Record ให้ทำการส่งเมลออกจาก Domain ด้วยหมายเลข IP Address ตาม Policy ที่กำหนด แนะนำเป็น
กำหนด DKIM Record ให้สร้าง Public Key และ Private Key โดยประกาศ Public Key บน DNS Record เพื่อป้องกันการแก้ไขข้อมูลระหว่างทาง
กำหนด DMARC Record ให้ฝั่งผู้รับดำเนินการกับอีเมลที่ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ แนะนำเป็น
กำหนด SPF Record สำหรับแต่ละ Subdomain ขององค์กร
กำหนด SPF Record ( -all ) และ DMARC ( p=reject ) สำหรับ Domain ที่ไม่มีการใช้งาน หรือ Domain ที่ไม่ได้ใช้ในการส่งอีเมล
อ่านเพิ่มเติม : ,